• 665

ผลวิจัยล่าสุดเผยว่า สาร CBD ในกัญชง/กัญชา ไม่ส่งผลให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง


Nattapol Chaisuriya (Wasabi) : แปล/เรียบเรียง

จากผลการศึกษาจาก JAMA Network (https://jamanetwork.com/journals/jama/article-abstract/2773562) เผยให้เห็นว่า สาร CBD ที่พบในกัญชงและกัญชา หากบริโภคในจำนวนที่น้อยจะไม่ส่งผลให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง ในขณะที่การบริโภคสาร THC แม้เพียงในปริมาณปานกลางอาจจะส่งผลให้ความสามารถในการขับขี่ลดลงอย่างมาก โดยผลลัพธ์นี้จะคงอยู่เป็นเวลา 4 ชั่วโมง

ผลการศึกษานี้นำทีมโดยนักวิจัยทีม : Lambert Initiative for Cannabinoid Therapeutics นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ออสเตรเรีย และดำเนินการในมหาวิทยาลัยมาสทริชท์ เนเธอร์แลนด์ โดยการวิจัยนี้ทีมวิจัยมีความคาดหวังว่าจะสามารถช่วยกำหนดนโยบายความปลอดภัยบนท้องถนนได้

การวิจัยครั้งนี้อาสาสมัครที่สุขภาพดีจำนวน 26 คนได้สูดดมกัญชาที่มีส่วนมีสาร THC และ CBD ก่อนที่จะขับรถในระยะทาง 100 กิโลเมตร บนทางด่วนภายใต้สภาวะควบคุมที่ปลอดภัยต่อบุคคลภายนอก

โดยอาสาสมัครจะได้ดมควัน 4 ประเภทได้แก่ ควันที่มีสาร THC (เข้มขนพอที่จะทำให้เกิดอาการมึนเมา), ควันที่มีสาร CBD , ควันที่มีทั้งสาร THC และ CBD, และควันเปล่าๆ

4 ชั่วโมงต่อมาอาสาสมัครใช้เวลาขับรถครั้งที่สอง โดยในหลายๆจุด ระหว่างการทดลองพวกเขาได้รับการทดสอบหลายครั้งเพื่อประเมินความรู้ความเข้าใจ นักวิจัยได้วัดความสามารถในการขับขี่ของผู้เข้าร่วมโดยการตรวจสอบความเบี่ยงเบนมาตรฐานของตำแหน่งรถและการให้คะแนนการเปลี่ยนเลน, การหักเลี้ยว, และการแสดงออกถึงความกระวนกระวายที่มากเกินไป

ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าเมื่ออาสาสมัครสูดดม THC ไม่ว่าจะสูดดม THC อย่างเดียว หรือสูดดม THC พร้อม CBD พวกเขามีอาการมึนเมาเล็กน้อยถึงรุนแรงซึ่งผลต่อคะแนนการขับขี่ของอาสาสมัครแต่ละคน ซึ่งอาการดูเหมือนจะจางหายไปหลังจาก 4 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามการสูดดมส่วนผสมที่มี CBD ล้วน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการขับขี่ของพวกเขาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

“การค้นพบนี้เป็นข้อบ่งชี้เป็นว่า CBD เมื่อไม่ได้อยู่คู่กับ THC จะไม่ส่งผลต่อความสามารถในการขับรถของอาสาสมัคร”

Thomas Arkell ผู้เขียนคนแรกของการศึกษาและนักวิจัยด้านการบำบัดด้วย Cannabinoid จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์กล่าว

ทีมนักวิจัยแสดงความหวังว่าการค้นพบของพวกเขาจะนำเสนอข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริงว่ากัญชามีผลต่อผู้ขับขี่อย่างไร

McGregor กล่าวว่า “ในขณะที่การศึกษาก่อนหน้านี้ได้พิจารณาถึงผลกระทบของกัญชาในการขับรถ แต่ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่กัญชารมควันที่มีเฉพาะ THC (ไม่ใช่ CBD) และยังไม่ได้ระบุระยะเวลาของการสูดดมอย่างแม่นยำ” นี่เป็นการศึกษาครั้งแรกที่แสดงให้เห็นถึงการขาดผลกระทบของ CBD ต่อการขับขี่และยังระบุระยะเวลาการด้อยค่าของ THC ให้ชัดเจนอีกด้วย

นอกจากนั้น McGregor ยังเสริมว่าผลการศึกษาสามารถช่วยชี้นำนโยบายความปลอดภัยทางถนน

ผลลัพธ์ควรสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะ CBD ว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ป่วยที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเด่นของ THC เข้าใจระยะเวลาของการออกฤทธิ์ที่มีผลกระทบถึงความบกพร่องในการขับขี่

ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ THC ควรยอมรับว่าเป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนในขณะที่ต้องคำนึงถึงการออกฤทธิ์อาจแตกต่างกันระหว่างสายพันธุ์กัญชาและขึ้นอยู่กับเวลา (ที่ผ่านไป) หลังการใช้งาน เขากล่าวในการเผยแพร่ทางสื่อ





Cann Society - Thailand