- Cann Society News
-
by ADMIN BKK
คณะกรรมาธิการด้านยาเสพติดยูเอ็น ลงมติเห็นชอบ นำกัญชาออกจากรายชื่อสารเสพติดหมวดหมู่ 4 ตามอนุสัญญาว่าด้วยสารเสพติด 1961
คณะกรรมาธิการขององค์การสหประชาชาติ (UN) โหวตลงมติให้นำ “กัญชา” ออกจากรายการสารเสพติดอันตราย นับเป็นการเคลื่อนไหวที่แสดงการยอมรับกลาย ๆ ว่ากัญชาเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยา
เมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) คณะกรรมาธิการด้านยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ ได้อนุมัติข้อเสนอแนะจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้นำกัญชาและยางกัญชาออกจากการจำแนกสารเสพติดหมวดหมู่ 4 (Schedule IV) ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยสารเสพติด 1961
สารที่จัดอยู่ในสารเสพติดหมวดหมู่ 4 นั้นเป็นกลุ่มย่อยของสารเสพติดหมวดหมู่ 1 (Schedule I) โดยถูกพิจารณาว่าเป็น “สารเสพติดที่อันตรายที่สุด มีฤทธิ์สูง และมีคุณค่าทางการแพทย์หรือการรักษาที่จำกัดอย่างมาก”
“นี่นับเป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกที่ต้องใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาโรค และสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงว่า ตลาดยารักษาโรคที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบกำลังเติบโตขึ้นในปัจจุบัน”
กลุ่มองค์กรสนับสนุนนโยบายเกี่ยวกับสารเสพติดกล่าว
ผลการลงมติครั้งนี้ ทำให้กัญชาและยางกัญชา ไม่ได้มีสถานะเป็นสารเสพติดที่อันตรายที่สุดอีกต่อไป และได้รับการยอมรับว่ามีประโยชน์ทางการแพทย์ แต่จะยังคงอยู่ภายใต้ข้อหมวดหมู่ 1
แอนน์ ฟอร์ดแฮม (Ann Fordham) ผู้อำนวยการบริหารของสมาคมนโยบายยาระหว่างประเทศ (International Drug Policy Consortium) กล่าวว่า “เรายินดีที่เกิดการยอมรับว่ากัญชาเป็นยาเสียที … อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากกัญชายังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมายในระดับสากล”
การเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้อาจยังไม่มีผลกระทบในทันทีต่อวิธีที่รัฐบาลแต่ละประเทศควบคุมกัญชา แต่อาจช่วยเพิ่มความพยายามในการออกกฎหมายทางการแพทย์เกี่ยวกับกัญชา
อย่างไรก็ตาม ในการลงมติครั้งนี้ มีคณะกรรมการเห็นชอบ 27-25 เสียง หรือเกือบครึ่งต่อครึ่งเท่านั้น โดยสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และแอฟริกาใต้ เป็นหนึ่งในประเทศที่โหวตเห็นชอบ ในขณะที่ บราซิล จีน รัสเซีย และปากีสถาน ลงคะแนนไม่เห็นด้วย
สำหรับประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์และส่งเสริมให้กัญชาและกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ โดยได้มีการประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ และที่ประชุมเห็นว่า วิถีภูมิปัญญาด้านสุขภาพของไทยมีการนำส่วนของใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น รากมาใช้ จึงปลดล็อกส่วนนี้ออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น
Reference
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/137695?utm_campaign=กัญชา&utm_source=line&utm_medium=oa